ตามผลสำรวจที่สมาคมอุตสาหกรรม Chief Executive เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ 14 เมษายน มีผู้บริหารระดับสูงของสหรัฐเพิ่มขึ้นคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในอนาคตอันใกล้ จากการสำรวจผู้บริหารระดับสูงกว่า 300 คนในเดือนเมษายน 62% คาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะถดถอยหรือภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวภายในหกเดือนข้างหน้านี้ เพิ่มขึ้นจาก 48% ในผลสำรวจเดือนมีนาคม (แหล่งที่มา: Chief Executive) ประมาณสามในสี่ของผู้บริหารระดับสูงที่ได้รับการสำรวจกล่าวว่าภาษีศุลกากรจะทำให้ธุรกิจของพวกเขาเสียหายในปี 2025 ในขณะที่ประมาณสองในสามระบุว่าไม่สนับสนุนภาษีที่ทรัมป์เสนอ เหล่านี้เป็นข้อมูลที่เน้นย้ำความกังวลที่เพิ่มขึ้นในวงการธุรกิจสหรัฐเกี่ยวกับอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งนโยบายภาษีที่เปลี่ยนแปลงไปมาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ทำให้ตลาดการเงินผันผวนและกระตุ้นความหวั่นไหวให้แก่ผู้บริโภคบางคน ผู้บริหารระดับสูงกังวลเรื่องเศรษฐกิจ ผลสำรวจรายเดือนยังรวมข้อมูลอื่น ๆ เช่น ทัศนคติของผู้บริหารต่อสภาพธุรกิจปัจจุบันและการคาดการณ์สภาพธุรกิจในอีกหนึ่งปีข้างหน้า ตามดัชนีวัดทัศนคติของผู้บริหารต่อสภาพธุรกิจปัจจุบัน ดัชนีลดลง 9% ในเดือนเมษายน หลังจากพุ่งลง 20% ในเดือนมีนาคม แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของโรคระบาด COVID-19 ในปี 2020 เมื่อทำนายสภาพธุรกิจในอีกหนึ่งปีข้างหน้า ทัศนคติของผู้บริหารแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเหล่านี้เป็นตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2012 ลดลงประมาณ 29% เมื่อเทียบกับปลายปี 2024 ผลสำรวจยังพบว่ามากกว่า 80% ของผู้บริหารระดับสูงคาดว่าค่าใช้จ่ายของบริษัทจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ขณะที่รัฐบาลสหรัฐเจรจาภาษีนำเข้ากับประเทศอื่น ๆ โดยประมาณครึ่งหนึ่งคาดว่าค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์สองหลัก ในบริบทนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 37% แสดงความมั่นใจว่ากำไรของบริษัทจะเพิ่มขึ้น ลดลงอย่างมากจาก 76% ในเดือนมกราคม เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลสำรวจดังกล่าว ผู้นำทางธุรกิจของสหรัฐได้เริ่มส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับอนาคตนของเศรษฐกิจสหรัฐ CEO ของ JPMorgan Chase แจมมี ไดมอน กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเขาคาดว่าการคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัท S&P 500 จะลดลงเนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีของทรัมป์ ในวันเดียวกัน CEO ของ BlackRock ลาร์รี ฟิงค์ ได้เตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจอ่อนแอจนถึงขั้นเติบโตในเชิงลบ